มาตรการรัฐบาลเพื่อการเงินรวมในไทย

Anúncios

มาตรการรัฐบาลเพื่อส่งเสริมการรวมทางการเงินในไทย

มาตรการรัฐบาลเพื่อส่งเสริมการรวมทางการเงินในไทย คือชุดนโยบายและโครงการที่ออกแบบมาเพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างเท่าเทียม ทั้งบัญชีธนาคาร บริการชำระเงิน สินเชื่อ และการประกันภัย โดยมีบทบาทสำคัญจากกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

บทความนี้จะสรุปภาพรวมของการเงินรวม ในมุมมองนโยบายการเงินไทย และชี้ให้เห็นมาตรการหลัก เช่น การผลักดันระบบพร้อมเพย์ (PromptPay) โครงการบัญชีประชาชน และการสนับสนุนฟินเทค เพื่อขยายการเข้าถึงบริการทางการเงิน โดยเน้นผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งแนวทางความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน

Anúncios

Anúncios

ข้อสรุปสำคัญ

  • มาตรการรัฐบาลเพื่อส่งเสริมการรวมทางการเงินในไทย มุ่งเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงิน สำหรับประชาชนทุกกลุ่ม
  • นโยบายการเงินไทย รวมถึงการสนับสนุน PromptPay และโครงการบัญชีประชาชนเป็นแกนกลางของความพยายาม
  • การขยายโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและฟินเทคเป็นกุญแจสำคัญต่อการเงินรวม
  • มาตรการเฉพาะสำหรับกลุ่มเปราะบาง ช่วยลดความเหลื่อมล้ำและส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก
  • ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนจำเป็นต่อการผลักดัน financial inclusion ไทย ให้เกิดผลจริง

ภาพรวมของการรวมทางการเงินในประเทศไทย

การรวมทางการเงินเป็นแนวทางสำคัญที่ช่วยเปิดโอกาสให้ประชาชนและธุรกิจเข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายขึ้น ในบริบทของไทย แนวทางนี้เชื่อมโยงกับการขยายบริการดิจิทัล บทบาทธนาคารพาณิชย์ และนโยบายรัฐที่สนับสนุนการมีบัญชีและการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์

ความหมายของการรวมทางการเงิน

ความหมายของการรวมทางการเงิน ครอบคลุมการสร้างโอกาสให้บุคคลและธุรกิจใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสม มีคุณภาพ และราคาเข้าถึงได้

นิยามนี้รวมบริการเช่น บัญชีออมทรัพย์ การชำระเงิน สินเชื่อ และการประกัน เพื่อให้คนทุกกลุ่มมีเครื่องมือบริหารความเสี่ยงและวางแผนการเงิน

สถานการณ์ปัจจุบันของการเข้าถึงบริการทางการเงิน

ภาพรวมการเข้าถึงบริการธนาคารในไทยดีขึ้นเมื่อเทียบกับทศวรรษก่อน โดยมีการเติบโตของบัญชีธนาคารและการใช้แอปธนาคารดิจิทัล

ระบบพร้อมเพย์ (PromptPay) และฟินเทค เช่น TrueMoney และธนาคารกรุงไทย ช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่การชำระเงินแบบไร้เงินสด

ความเหลื่อมล้ำยังคงอยู่ กลุ่มผู้สูงอายุ ชาวชนบท แรงงานนอกระบบ และผู้มีรายได้น้อย ประสบปัญหาการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานและทักษะดิจิทัล

สถาบันการเงินทั้งธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และไมโครไฟแนนซ์มีบทบาทขยายบริการสู่ชุมชนห่างไกล

ความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

การรวมทางการเงินช่วยเพิ่มการจ้างงานและรายได้ เมื่อลงทุนผ่านสินเชื่อรายย่อย ผู้ประกอบการขยายกิจการและเกษตรกรปรับปรุงผลิตผล

บริการทางการเงินช่วยลดความยากจนโดยเพิ่มความมั่นคงทางการเงินของครัวเรือน และส่งเสริมความเสมอภาคทางเศรษฐกิจ

ช่องทางดิจิทัลทำให้การจ่ายสวัสดิการรัฐมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดต้นทุนการจัดจ่ายและเพิ่มความโปร่งใส

มาตรการรัฐบาลเพื่อส่งเสริมการรวมทางการเงินในไทย

A vibrant digital illustration showcasing the government's financial inclusion measures in Thailand. In the foreground, a diverse group of individuals - young and old, urban and rural - engage with intuitive financial services and digital banking platforms. In the middle ground, a tapestry of interconnected financial institutions, mobile wallets, and digital payment channels weave a seamless network. The background depicts a modern cityscape with skyscrapers, highways, and a lush, verdant landscape, symbolizing Thailand's economic progress and development. The overall scene conveys a sense of accessibility, inclusivity, and technological advancement, reflecting the government's efforts to promote financial integration and empower all citizens.

มาตรการของรัฐเน้นการสร้างกรอบนโยบายที่ชัดเจนและโครงการสนับสนุนเชิงปฏิบัติ เพื่อขยายการเข้าถึงบริการทางการเงินให้ครอบคลุมทุกกลุ่มประชากร การบูรณาการนโยบายระดับชาติกับโครงการภาคสนามช่วยให้การดำเนินงานมีทิศทางเดียวกันและวัดผลได้

นโยบายระดับชาติที่เกี่ยวข้อง

ธนาคารแห่งประเทศไทยวางกรอบเพื่อส่งเสริมระบบการชำระเงินที่ปลอดภัยและครอบคลุม เช่น การพัฒนาโครงสร้างพร้อมเพย์และการกำกับดูแลฟินเทค นโยบายกระทรวงการคลังผสานกับยุทธศาสตร์ชาติในการขยายบริการไปยังชุมชนชนบทและสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก

การปรับปรุงกฎหมายและมาตรการกำกับดูแลยังออกแบบเพื่อเอื้อต่อการให้บริการดิจิทัล พร้อมการคุ้มครองผู้บริโภคทางการเงิน ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายระดับชาติ ที่มุ่งให้เกิดสภาพแวดล้อมเอื้อต่อการรวมทางการเงิน

โครงการสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐ

โครงการบัญชีประชาชนช่วยให้ประชาชนลงทะเบียนและเข้าถึงการรับสวัสดิการผ่านระบบดิจิทัลได้สะดวก โครงการสินเชื่อจากธนาคารของรัฐ เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารออมสิน มุ่งให้สินเชื่อแก่เกษตรกรและ SME

หน่วยงานราชการร่วมกับองค์กรไม่แสวงผลกำไรจัดอบรมความรู้ด้านการเงิน และพัฒนาทักษะดิจิทัลให้ชุมชน รายการโครงการเหล่านี้อยู่ภายใต้แผนงานเพื่อส่งเสริมการรวมทางการเงินโดยตรง

การประสานงานระหว่างภาครัฐและเอกชน

ความร่วมมือภาครัฐเอกชน เป็นกลไกสำคัญในการเร่งการนำเทคโนโลยีมาใช้ หน่วยงานรัฐทำงานร่วมกับธนาคารพาณิชย์ ฟินเทค และผู้ให้บริการมือถือเพื่อขยายบริการการชำระเงินและระบบยืนยันตัวตนดิจิทัล

โครงการนำร่องร่วมกันมักทดสอบแพลตฟอร์ม Open API และ e-KYC ผ่านพันธมิตรเอกชน ทำให้ลดต้นทุนการให้บริการและขยายการเข้าถึงได้รวดเร็วขึ้น รูปแบบความร่วมมือภาครัฐเอกชน ยังช่วยสร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการชุมชน

หัวข้อหน่วยงานหลักตัวอย่างมาตรการ
นโยบายระดับชาติธนาคารแห่งประเทศไทย, กระทรวงการคลังพัฒนาโครงสร้างพร้อมเพย์ กำกับฟินเทค ขยายบริการสู่ชุมชนชนบท
โครงการรัฐบาล การรวมทางการเงินธนาคารของรัฐ, กรมประชาสัมพันธ์บัญชีประชาชน สินเชื่อ SME/เกษตรกร โปรแกรมอบรมการเงิน
ความร่วมมือภาครัฐเอกชนธนาคารพาณิชย์, ผู้ให้บริการมือถือ, ฟินเทคโครงการนำร่อง Open API, ระบบ e-KYC, แพลตฟอร์มชำระเงินร่วม
ผลที่คาดหวังภาครัฐและเอกชนร่วมกันขยายการเข้าถึง ลดต้นทุน เพิ่มความปลอดภัยทางการเงิน

การขยายโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินดิจิทัล

A sprawling digital infrastructure landscape, with sleek towers of data centers, interconnected by a web of fiber-optic cables and wireless antennas. Glowing holographic interfaces hover above the cityscape, showcasing financial dashboards, digital wallets, and secure transaction flows. The scene is bathed in a soft, ambient glow, creating a sense of futuristic sophistication. In the foreground, a network of ATMs, mobile payment kiosks, and smart devices seamlessly integrate the physical and digital realms. The overall impression is one of a technologically advanced, financially inclusive environment that empowers individuals and businesses alike.

การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ช่วยให้บริการทางการเงินเข้าถึงประชาชนได้มากขึ้นและเร็วขึ้น ระบบพื้นฐานที่แข็งแรงเป็นรากฐานของการพัฒนาแอปพลิเคชันทางการเงินและการให้บริการที่ปลอดภัย

การลงทุนด้านเครือข่ายและการเชื่อมต่อมีบทบาทสำคัญต่อการรวมทางการเงิน ผู้ให้บริการรายหลักอย่าง AIS, TrueMove H และ dtac ร่วมกับโครงการภาครัฐผลักดันการติดตั้งบรอดแบนด์ทั้งในเมืองและพื้นที่ห่างไกล

การวางเสาสัญญาณและจุดเชื่อมต่อ Wi‑Fi สาธารณะช่วยลดช่องว่างดิจิทัล การสนับสนุนแผนพัฒนาท้องถิ่นยิ่งทำให้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตไทยเข้มแข็งขึ้น

การขยายระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์เป็นอีกหัวใจของการเปลี่ยนผ่านทางการเงิน การใช้ PromptPay และ QR Code สาธารณะลดต้นทุนการทำธุรกรรมและเพิ่มความสะดวกรวดเร็วให้ผู้ใช้บริการ

นโยบาย Open API ฟินเทค ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเข้าถึงข้อมูลอย่างเป็นระบบเพื่อสร้างนวัตกรรมและการแข่งขันทางการเงิน

มาตรฐานความปลอดภัย การเข้ารหัสข้อมูล และการยืนยันตัวตนแบบ e‑KYC เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ และปกป้องข้อมูลผู้ใช้

การสนับสนุนสตาร์ทอัพและฟินเทคจากหน่วยงานทั้งรัฐและเอกชนเร่งให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ โครงการจากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมอบทุนและการบ่มเพาะ

regulatory sandbox ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยและหน่วยงานกำกับดูแลเปิดใช้งาน ช่วยให้ฟินเทคทดสอบบริการในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมได้ ซึ่งส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ประชาชน

การผสานกันของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไทย ระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ และ Open API ฟินเทค พร้อมมาตรการสนับสนุนสตาร์ทอัพ จะยกระดับการเข้าถึงบริการทางการเงินและขยายโอกาสทางเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม

มาตรการทางการเงินเพื่อกลุ่มเปราะบาง

มาตรการทางการเงินกลุ่มเปราะบางมุ่งสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการทางการเงินและสวัสดิการดิจิทัลสำหรับประชาชนทุกสถานะทางเศรษฐกิจ. การออกแบบนโยบายเน้นลดขั้นตอน บูรณาการข้อมูล และใช้เทคโนโลยีเพื่อให้ผลประโยชน์ถึงมือผู้ได้รับจริง.

โครงการบัญชีประชาชนและการให้บริการพื้นฐาน

โครงการบัญชีประชาชนตั้งเป้าให้ทุกคนมีบัญชีดิจิทัลหรือบัญชีธนาคาร เพื่อรับสวัสดิการดิจิทัลและการโอนเงินโดยตรง. การเชื่อมโยงกับทะเบียนราษฎร์และสำนักงานสถิติช่วยลดการลงทะเบียนซ้ำซ้อน.

ช่องทางจ่ายแบบดิจิทัล เช่น PromptPay และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ถูกนำมาใช้เพื่อลดความซับซ้อน และเพิ่มความปลอดภัยในการรับสวัสดิการ.

การช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและแรงงานนอกระบบ

มาตรการเพื่อการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยรวมถึงสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำและการสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียน. โครงการฝึกอาชีพร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นช่วยยกระดับทักษะและเพิ่มโอกาสรายได้.

ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ออกแบบเฉพาะ เช่น บัญชีไม่มีค่าธรรมเนียมและไมโครไฟแนนซ์ ช่วยให้แรงงานนอกระบบเข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายขึ้น. ร้านค้าชุมชนและตัวกลางที่เชื่อถือได้เป็นช่องทางให้แรงงานรับชำระเงินแบบเป็นทางการ.

มาตรการสำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการ

การปรับบริการธนาคารเพื่อรองรับผู้สูงอายุและผู้พิการรวมถึงเคาน์เตอร์บริการพิเศษ ช่องทางโทรศัพท์ และแอปที่ใช้งานง่าย. นโยบายจ่ายบำนาญและสวัสดิการดิจิทัลผ่านช่องทางดิจิทัลช่วยลดการพกเงินสดและความเสี่ยง.

การอบรมญาติหรือผู้ดูแลและบริการเคลื่อนที่ (mobile banking) ถูกจัดเพื่อเข้าถึงผู้ที่ไม่สะดวกเดินทาง. การรวมมาตรการเหล่านี้ทำให้บริการผู้สูงอายุเข้ากับระบบการเงินหลักได้อย่างยั่งยืน.

การส่งเสริมความรู้ด้านการเงินและการศึกษา

ความรู้ด้านการเงินและทักษะดิจิทัลทางการเงินเป็นหัวใจสำคัญของการเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ การศึกษาเพื่อการเงินช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกลวง วางแผนการออม และบริหารหนี้ของครัวเรือนได้ดียิ่งขึ้น

ในไทยมีโครงการการอบรมการเงินที่หลากหลาย ได้แก่ โปรแกรมจากธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์ และการบูรณาการความรู้ทางการเงินสู่โรงเรียนโดยกระทรวงศึกษาธิการ สถาบันการศึกษาขั้นพื้นฐานยังเริ่มนำหลักสูตร financial literacy ไทย เข้าสู่ชั้นเรียนเพื่อสร้างฐานทักษะตั้งแต่ต้น

เครื่องมือการสอนที่ได้ผล เช่น คู่มือออนไลน์ วิดีโอสั้น แอปพลิเคชันจำลองการเงิน และเวิร์กช็อปเชิงปฏิบัติการ ช่วยให้การอบรมการเงินเข้าถึงชุมชนได้ง่ายขึ้น การสื่อสารด้วยภาษาท้องถิ่นและรูปแบบที่เหมาะกับผู้สูงอายุหรือแรงงานนอกระบบเพิ่มโอกาสให้ทุกคนใช้บริการดิจิทัลอย่างมั่นใจ

การประเมินผลควรใช้ตัวชี้วัดความรู้ทางการเงินและการเข้าถึงบริการเพื่อติดตามความคืบหน้า พร้อมขยายความร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อปรับเนื้อหาให้ทันเทคโนโลยี แนวทางปฏิบัติระยะสั้น เช่น แคมเปญสาธารณะ และระยะยาว เช่น บรรจุ financial literacy ไทย ในหลักสูตร เป็นก้าวสำคัญสู่การรวมทางการเงินที่ยั่งยืน

FAQ

มาตรการรัฐบาลเพื่อการรวมทางการเงิน (financial inclusion) หมายความว่าอะไร?

มาตรการรัฐบาลเพื่อการรวมทางการเงินคือชุดนโยบายและโครงการที่ออกแบบมาเพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างเท่าเทียม ทั้งบัญชีธนาคาร การชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ สินเชื่อ และการประกันภัย โดยมุ่งลดข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทักษะดิจิทัล และค่าใช้จ่าย เพื่อเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจและความมั่นคงทางการเงินของครัวเรือน

สถานการณ์การเข้าถึงบริการทางการเงินในประเทศไทยเป็นอย่างไรบ้าง?

ประเทศไทยมีแนวโน้มการเข้าถึงบริการทางการเงินที่เพิ่มขึ้น โดยการใช้งาน PromptPay แอปธนาคาร และฟินเทคเติบโต อย่างไรก็ตามยังมีความเหลื่อมล้ำ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ชุมชนชนบท แรงงานนอกระบบ และผู้มีรายได้น้อยที่ยังขาดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ทักษะดิจิทัล และบริการสาขา

นโยบายระดับชาติใดที่เกี่ยวข้องกับการรวมทางการเงิน?

หลักสำคัญได้แก่กรอบนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ส่งเสริมระบบชำระเงินครอบคลุมและปลอดภัย ยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายกระทรวงการคลังที่เน้นการขยายบริการสู่พื้นที่ห่างไกล รวมถึงการปรับกฎระเบียบเพื่อเอื้อต่อฟินเทค การคุ้มครองผู้บริโภค และการส่งเสริม Open API

รัฐมีโครงการใดบ้างที่สนับสนุนการรวมทางการเงิน?

ตัวอย่างโครงการสำคัญคือโครงการบัญชีประชาชนที่เชื่อมข้อมูลทะเบียนราษฎร์ โครงการจ่ายสวัสดิการผ่าน PromptPay โครงการสินเชื่อสนับสนุน SME และเกษตรกรจากธนาคารของรัฐ เช่น ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. รวมถึงโครงการอบรมความรู้ทางการเงินที่หน่วยงานรัฐและองค์กรไม่แสวงผลกำไรจัดให้

การประสานงานระหว่างภาครัฐและเอกชนมีบทบาทอย่างไร?

ภาครัฐร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ ฟินเทค และผู้ให้บริการโทรคมนาคม เพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐาน ดำเนินโครงการนำร่อง เช่น Open API และ e-KYC และใช้ความร่วมมือนี้ลดต้นทุนการให้บริการ เร่งนำนวัตกรรมมาใช้ และขยายการเข้าถึงผู้ใช้ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

รัฐลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลอย่างไรเพื่อสนับสนุนการรวมทางการเงิน?

รัฐร่วมกับผู้ให้บริการโทรคมนาคม เช่น AIS, TrueMove H และ dtac ในการขยายเครือข่ายบรอดแบนด์ และเพิ่มจุดเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกล นอกจากนี้ยังส่งเสริมการติดตั้ง Wi‑Fi สาธารณะ พัฒนามาตรฐานความปลอดภัยข้อมูล และสนับสนุนระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์อย่าง PromptPay และ QR Code สาธารณะ

ฟินเทคและสตาร์ทอัพได้รับการสนับสนุนจากรัฐอย่างไร?

มีโครงการบ่มเพาะและเงินทุนสนับสนุนจากหน่วยงานเช่น สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมทั้งพื้นที่ทดลองนวัตกรรม (regulatory sandbox) ของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เปิดให้ฟินเทคทดสอบผลิตภัณฑ์ภายใต้มาตรการกำกับดูแลควบคุม

มาตรการใดที่ออกแบบมาสำหรับกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ แรงงานนอกระบบ และผู้พิการ?

รัฐออกแบบบริการที่เอื้อต่อกลุ่มเปราะบาง เช่น โครงการบัญชีประชาชน เพื่อให้มีบัญชีรับสวัสดิการ บัญชีไม่มีค่าธรรมเนียม สินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ บริการเคลื่อนที่ (mobile banking) จุดให้บริการในชุมชน และการออกแบบแอปที่ใช้งานง่าย รวมถึงการอบรมญาติหรือผู้ดูแลเพื่อเพิ่มการเข้าถึง

โครงการบัญชีประชาชนช่วยอะไรได้บ้าง?

โครงการบัญชีประชาชนช่วยให้ประชาชนทุกคนมีบัญชีดิจิทัลหรือบัญชีธนาคารเพื่อรับสวัสดิการ โอนเงิน และเข้าถึงบริการทางการเงินพื้นฐาน การเชื่อมข้อมูลทะเบียนราษฎร์ช่วยลดขั้นตอนการลงทะเบียนและเพิ่มความถูกต้องของการแจกสวัสดิการ

รัฐมีมาตรการช่วยเหลือแรงงานนอกระบบและผู้มีรายได้น้อยอย่างไร?

มาตรการรวมถึงสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ โปรแกรมฝึกอาชีพ การออกแบบผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ไม่มีค่าธรรมเนียมและประกันรายได้ชั่วคราว รวมถึงการส่งเสริมให้ร้านค้าชุมชนรับชำระด้วยดิจิทัล เพื่อให้แรงงานนอกระบบได้รับการชำระเงินอย่างเป็นทางการ

มีมาตรการใดเพื่อส่งเสริมความรู้ด้านการเงิน (financial literacy)?

รัฐร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย สถาบันการเงิน และกระทรวงศึกษาธิการพัฒนาโปรแกรมฝึกอบรม คู่มือออนไลน์ วิดีโอสั้น และเวิร์กช็อปในชุมชน รวมถึงการบรรจุความรู้ทางการเงินในหลักสูตรการศึกษาเพื่อเพิ่มทักษะการบริหารงบประมาณ การออม และการใช้บริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์อย่างปลอดภัย

การประเมินผลมาตรการการรวมทางการเงินทำอย่างไร?

การประเมินใช้ตัวชี้วัด เช่น อัตราการมีบัญชีธนาคาร การใช้บริการชำระเงินดิจิทัล การเข้าถึงสินเชื่อและประกันภัย และดัชนีความรู้ทางการเงิน โดยหน่วยงานรัฐและสถาบันวิจัยติดตามข้อมูลเพื่อปรับปรุงนโยบายและขยายผลโครงการที่มีประสิทธิภาพ

ประชาชนควรเริ่มต้นอย่างไรหากต้องการเข้าถึงบริการทางการเงินดิจิทัล?

เริ่มจากเปิดบัญชีธนาคารหรือลงทะเบียน PromptPay อ่านคู่มือความปลอดภัยของธนาคาร ใช้แอปพลิเคชันธนาคารที่มีฟังก์ชันพื้นฐาน ฝึกทักษะดิจิทัลผ่านคอร์สออนไลน์หรือเวิร์กช็อปชุมชน และสอบถามบริการช่วยเหลือของธนาคาร หากเป็นผู้สูงอายุหรือผู้พิการควรขอคำแนะนำจากญาติหรือผู้ดูแล

มาตรการเหล่านี้มีผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมอย่างไร?

การเพิ่มการรวมทางการเงินช่วยกระตุ้นการลงทุนของผู้ประกอบการรายย่อย เพิ่มการจ้างงานและรายได้ ลดความยากจน และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายสาธารณะ เช่น การจ่ายสวัสดิการแบบดิจิทัลที่โปร่งใสและลดต้นทุน ส่งผลให้เศรษฐกิจมีความยืดหยุ่นและเติบโตอย่างยั่งยืน

มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยหรือตามกฎหมายหรือไม่?

มีความเสี่ยงด้านข้อมูลส่วนบุคคล การฉ้อโกงออนไลน์ และความไม่เสถียรของระบบดิจิทัล รัฐออกมาตรการกำกับดูแล มาตรฐาน e‑KYC การเข้ารหัสข้อมูล และการคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อลดความเสี่ยง ผู้ให้บริการต้องปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนด
Publicado em ตุลาคม 19, 2025
Conteúdo criado com auxílio de Inteligência Artificial
Sobre o Autor

Amanda

ฉันเป็นนักข่าวและนักเขียนเนื้อหาที่เชี่ยวชาญด้านการเงิน ตลาดการเงิน และบัตรเครดิต ฉันชอบเปลี่ยนเรื่องซับซ้อนให้เป็นเนื้อหาที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย เป้าหมายของฉันคือการช่วยให้ผู้คนตัดสินใจได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น — โดยใช้ข้อมูลที่มีคุณภาพและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดของตลาดเสมอ